เรื่องของหัวใจ… ไม่ใช่แค่เรื่องความรักนะคะ แต่เป็นเรื่องสุขภาพที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้ โรคหัวใจและหลอดเลือดมักมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่ว ไม่ว่าจะเป็นค่ายาที่ต้องทานต่อเนื่อง ค่าอุปกรณ์พิเศษต่างๆ หรือค่าหัตถการที่ซับซ้อน ความกังวลเรื่องค่ารักษาอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกหนักใจ
แต่สำหรับผู้มีสิทธิข้าราชการและครอบครัว ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะสวัสดิการนี้ออกแบบมาเพื่อโอบอุ้มดูแลคุณในวันที่ต้องเผชิญกับโรคเหล่านี้ The Medicative จะพาไปดูว่าสิทธิของเราครอบคลุมอะไรบ้าง เพื่อให้คุณวางแผนการรักษาได้อย่างสบายใจค่ะ
สิทธิครอบคลุมอะไรบ้าง?
สิทธิข้าราชการครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดหลากหลาย ตั้งแต่การวินิจฉัยไปจนถึงการรักษาและการฟื้นฟู โดยสามารถเบิกจ่ายได้ทั้งในสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน (ตามเงื่อนไข)
1. ค่ายาและเวชภัณฑ์
- ค่ายาในบัญชียาหลักแห่งชาติ: สามารถเบิกได้ตามสิทธิ
- ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ: หากแพทย์ลงความเห็นว่าจำเป็นต้องใช้ ก็สามารถเบิกได้ โดยต้องมีใบรับรองและระบุเหตุผลตามเงื่อนไข
- สารอาหารทางเส้นเลือด และสารทดแทนต่างๆ ที่จำเป็นต่อการรักษา
2. ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค
นี่คือส่วนที่หลายคนกังวล แต่สิทธิข้าราชการครอบคลุมอุปกรณ์สำคัญๆ ในหมวดหัวใจและหลอดเลือดกว่า 110 รายการ เช่น:
- เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
- ลิ้นหัวใจเทียม
- ขดลวดเคลือบยาและไม่เคลือบยา (Stent) ที่ใช้ในการขยายหลอดเลือด
- สายสวนหลอดเลือดหัวใจ
- อุปกรณ์ปิดผนังหัวใจที่รั่ว
- และอื่นๆ อีกมากมายตามประกาศของกระทรวงการคลัง
ข้อสังเกต: การเบิกค่าอุปกรณ์เหล่านี้ ในใบเสร็จจากโรงพยาบาลจะต้องมี “รหัส” ของอุปกรณ์กำกับอยู่ด้วยเสมอ เพื่อใช้ในการตรวจสอบและเบิกจ่ายตามอัตราที่กำหนดค่ะ
3. ค่าบริการทางการแพทย์และหัตถการ
- ค่าตรวจวินิจฉัย: เช่น การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (EST), การอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiogram)
- ค่าทำหัตถการ: เช่น การผ่าตัดบายพาส, การใส่สายสวนเพื่อขยายหลอดเลือด, การจี้ไฟฟ้าหัวใจ สามารถเบิกได้ตามอัตราที่กรมบัญชีกลางกำหนดภายใต้ระบบกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRGs)
ใครใช้สิทธิได้บ้าง?
ผู้ที่สามารถใช้สิทธินี้ได้คือ “ผู้มีสิทธิ” และ “บุคคลในครอบครัว” ที่ชอบด้วยกฎหมาย ได้แก่:
- ตัวข้าราชการ/ลูกจ้างประจำ/ผู้รับบำนาญ
- บิดาและมารดา ที่ชอบด้วยกฎหมาย
- คู่สมรส ที่ชอบด้วยกฎหมาย
- บุตร ที่ชอบด้วยกฎหมาย (รวมบุตรบุญธรรม) อายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ (ยกเว้นกรณีเป็นผู้ไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ) โดยเบิกได้ไม่เกิน 3 คน
ใช้สิทธิที่ไหนและอย่างไร?
1. สถานพยาบาลของทางราชการ:
- ผู้ป่วยนอก: สามารถใช้ ระบบเบิกจ่ายตรง ได้เลย เพียงยื่นบัตรประชาชน ไม่ต้องสำรองจ่ายสำหรับค่ารักษาที่อยู่ในสิทธิ
- ผู้ป่วยใน: สามารถใช้ ระบบเบิกจ่ายตรง ได้เช่นกัน โดยสถานพยาบาลจะดำเนินการเบิกจ่ายกับกรมบัญชีกลางโดยตรงผ่านระบบ DRGs (ระบบกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม) ซึ่งเป็นการเหมาจ่ายตามกลุ่มโรค ผู้ป่วยจะรับผิดชอบเฉพาะค่าใช้จ่ายส่วนเกินสิทธิ เช่น ค่าห้องพิเศษ
2. สถานพยาบาลของเอกชน:
- กรณีฉุกเฉินวิกฤต: หากมีภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือภาวะฉุกเฉินอื่นๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดได้ทันที โดยไม่ต้องสำรองจ่ายในช่วง 72 ชั่วโมงแรก ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” (UCEP)
- กรณีนัดผ่าตัดล่วงหน้า (Elective Surgery): สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการกับกรมบัญชีกลางได้ โดยใช้ระบบเบิกจ่ายตรงสำหรับค่ารักษาในส่วนที่เบิกได้ และผู้ป่วยจ่ายเฉพาะส่วนเกินที่ตกลงกับโรงพยาบาลไว้ล่วงหน้า
การรู้ว่าสิทธิของเราครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง จะช่วยลดความวิตกกังวลและทำให้เรามุ่งความสนใจไปที่การรักษาได้อย่างเต็มที่ สิทธิข้าราชการคือหลักประกันที่แข็งแรงซึ่งรัฐมอบให้ อย่าลังเลที่จะสอบถามรายละเอียดจากสถานพยาบาลเพื่อใช้สิทธิของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะคะ
อ้างอิง