ปวดฟันทีไร ไม่ใช่แค่ทรมานร่างกายนะคะ แต่ยังปวดใจกับค่ารักษาที่ตามมาด้วย! เรื่องสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ และค่าใช้จ่ายในการทำฟันก็ไม่ใช่เล่นๆ เลย หลายคนจึงมักมีคำถามว่าสิทธิข้าราชการที่เรามีนั้น ครอบคลุมการทำฟันอะไรได้บ้าง? เบิกได้เท่าไหร่? แล้วจัดฟันเพื่อความสวยงามเบิกได้ไหม?
วันนี้ The Medicative จะมาไขทุกข้อข้องใจให้เคลียร์ชัดๆ ไปเลยค่ะ จะได้วางแผนดูแลสุขภาพฟันและใช้สิทธิกันได้อย่างเต็มที่!
สิทธิครอบคลุมอะไรบ้าง?
หลักการจำง่ายๆ คือ สิทธิข้าราชการจะครอบคลุม
“การรักษาทางทันตกรรมที่จำเป็น” แต่จะไม่ครอบคลุม “การเสริมความงาม” ค่ะ โดยสามารถแบ่งประเภทการรักษาที่เบิกได้ ดังนี้
1. ทันตกรรมพื้นฐาน (เบิกได้เต็มที่ใน รพ.รัฐ)
เป็นการรักษาเพื่อสุขภาพช่องปากโดยตรง ซึ่งสามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายได้ตามปกติ ได้แก่:
- อุดฟัน: การรักษาฟันผุด้วยการใช้วัสดุอุดฟัน
- ขูดหินปูน: การกำจัดคราบหินปูนเพื่อป้องกันโรคเหงือก
- ถอนฟัน: การถอนฟันที่ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้
- ผ่าฟันคุด: การผ่าตัดเพื่อนำฟันคุดที่สร้างปัญหาออก
- รักษารากฟัน: การรักษาโพรงประสาทฟันที่ติดเชื้อเพื่อเก็บฟันไว้
- รักษาโรคเหงือกอักเสบ
2. ทันตกรรมใส่ฟัน (เบิกได้ตามอัตราที่กำหนด)
สำหรับใครที่ต้องใส่ฟันปลอมหรือครอบฟัน สิทธิข้าราชการก็ดูแลในส่วนนี้ด้วยค่ะ แต่จะเป็นการเบิกจ่ายตามอัตราที่กรมบัญชีกลางกำหนด 96 ได้แก่:
- ฟันปลอม (Prosthodontics): ทั้งแบบถอดได้และแบบติดแน่น
- ครอบฟัน (Crown): การบูรณะฟันที่เสียหายรุนแรง
ข้อควรรู้: การเบิกค่าทำฟันปลอมและครอบฟัน ไม่สามารถใช้ระบบเบิกจ่ายตรงได้ ผู้ป่วยต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อน แล้วนำใบเสร็จไปยื่นเบิกที่ส่วนราชการต้นสังกัด พร้อมให้ทันตแพทย์จัดทำเอกสารประกอบการเบิกจ่ายตามระเบียบค่ะ
แล้วอะไรที่เบิกไม่ได้?
- การจัดฟันเพื่อความสวยงาม: ถือเป็นการเสริมความงามจึงไม่สามารถเบิกได้
- การฟอกสีฟัน: เพื่อให้ฟันขาวขึ้น จัดเป็นการเสริมความงาม
- การทำรากฟันเทียม (Implant): โดยทั่วไปยังไม่ครอบคลุมในสิทธิพื้นฐาน ยกเว้นมีข้อบ่งชี้พิเศษทางการแพทย์
ใครใช้สิทธิได้บ้าง?
ผู้ที่สามารถใช้สิทธินี้ได้คือ
“ผู้มีสิทธิข้าราชการ” และ “บุคคลในครอบครัว” ที่ชอบด้วยกฎหมายทุกท่านค่ะ
- ตัวข้าราชการ/ลูกจ้างประจำ/ผู้รับบำนาญ
- บิดาและมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
- คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
- บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย (อายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ และเบิกได้ไม่เกิน 3 คน)
ใช้สิทธิที่ไหนและอย่างไร?
1. สถานพยาบาลของทางราชการ:
- การรักษาพื้นฐาน (อุด/ขูด/ถอน/ผ่า): สามารถใช้ ระบบเบิกจ่ายตรง ได้เลยค่ะ เพียงยื่นบัตรประชาชนที่ห้องทันตกรรมของโรงพยาบาลรัฐ ไม่ต้องสำรองจ่าย
- การใส่ฟัน/ครอบฟัน: ต้อง สำรองจ่ายก่อน แล้วนำใบเสร็จและเอกสารรับรองจากทันตแพทย์ไปยื่นเบิกที่ต้นสังกัด
2. สถานพยาบาลของเอกชน:
- โดยทั่วไป การทำฟันเป็นการรักษานอกเวลาหรือมีการนัดหมายล่วงหน้า จึง ไม่เข้าข่ายกรณีฉุกเฉิน ดังนั้น หากไปทำฟันที่คลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน จะ ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เว้นแต่เป็นอุบัติเหตุฉุกเฉินที่เกี่ยวกับช่องปากซึ่งต้องได้รับการรักษาทันที
ระยะเวลาในการใช้สิทธิ
สามารถใช้สิทธิได้ตามความจำเป็นในการรักษา โดยไม่มีการจำกัดจำนวนครั้งต่อปีสำหรับการรักษาพื้นฐาน แต่สำหรับการเบิกค่าใส่ฟันปลอมหรือครอบฟัน จะมีเงื่อนไขและระยะเวลาตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด ซึ่งเจ้าหน้าที่การเงินของต้นสังกัดจะช่วยตรวจสอบให้ค่ะ
สุขภาพช่องปากเป็นประตูสู่สุขภาพโดยรวมที่ดี การรู้ขอบเขตสิทธิทำฟันจะช่วยให้เราวางแผนการรักษาได้อย่างมั่นใจและสบายกระเป๋ามากขึ้น อย่าลืมตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน และใช้สิทธิที่เรามีให้คุ้มค่านะคะ!