เมื่อพูดถึงการรักษาพยาบาล หลายคนอาจนึกถึงยาแผนปัจจุบันและการผ่าตัด แต่รู้ไหมคะว่า ศาสตร์การดูแลสุขภาพของไทยเราอย่าง “การแพทย์แผนไทย” หรือการนวดแผนไทยก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาสมุนไพรที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ หรือการทำหัตถบำบัด (การนวดเพื่อการรักษา) เพื่อฟื้นฟูร่างกาย
สำหรับผู้มีสิทธิข้าราชการและครอบครัวที่สนใจการดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ เพราะสวัสดิการข้าราชการเปิดกว้างให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลด้วยวิธีการทางการแพทย์แผนไทยได้ด้วย The Medicative จะพาไปดูว่าเงื่อนไขและขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้าง
สิทธิครอบคลุมอะไรบ้าง?
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเบิกค่ารักษาพยาบาลด้วยวิธีแพทย์แผนไทยนั้น มุ่งเน้นไปที่
“การรักษาโรค” และ “การฟื้นฟูสมรรถภาพ” เป็นหลัก ส่วนการบำบัดเพื่อส่งเสริมสุขภาพหรือป้องกันโรค เช่น การนวดเพื่อผ่อนคลาย จะยังไม่สามารถเบิกได้นะคะ
โดยสิทธิจะครอบคลุม 2 ส่วนหลักๆ คือ:
1. ค่ายาสมุนไพรและยาแผนไทย
สามารถเบิกได้ตามรายการที่กำหนดไว้ 4 ประเภท ดังนี้:
- ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ: ยาสมุนไพรที่ถูกบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ (ยกเว้นยาภายนอกบางชนิด เช่น น้ำมันไพล เจลพริก ที่มีลักษณะเพื่อการผ่อนคลาย) 80808080
- ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ: ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข 81
- ยาที่โรงพยาบาลผลิตเอง (เภสัชตำรับโรงพยาบาล): เช่น ยาของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สามารถเบิกได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นยาในรูปแบบใด 82
- ยาที่ปรุงสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย: หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ยาหม้อ” ก็สามารถเบิกได้เช่นกัน 83
2. ค่าบริการหัตถบำบัด (การนวดเพื่อการรักษา)
เป็นการนวดที่มีเป้าหมายเพื่อการรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพโดยตรง โดยสามารถเบิกได้วันละ 1 ครั้ง และไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ใครใช้สิทธิได้บ้าง?
ผู้ที่สามารถใช้สิทธินี้ได้คือ “ผู้มีสิทธิข้าราชการ” และ “บุคคลในครอบครัว” ที่ชอบด้วยกฎหมายทุกท่านค่ะ
- ตัวข้าราชการ/ลูกจ้างประจำ/ผู้รับบำนาญ
- บิดาและมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
- คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย (อายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ และเบิกได้ไม่เกิน 3 คน)
ใช้สิทธิที่ไหนและอย่างไร?
การใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลด้วยแพทย์แผนไทยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ “หนังสือรับรอง” ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ และต้องใช้สิทธิที่ สถานพยาบาลของทางราชการที่มีบริการด้านการแพทย์แผนไทย
ขั้นตอนการใช้สิทธิ:
- ขอหนังสือรับรองความจำเป็น: ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนไทย ผู้ป่วยจะต้องได้รับ หนังสือรับรองจากแพทย์ ที่ระบุว่ามีความจำเป็นต้องรักษาหรือฟื้นฟูด้วยวิธีนี้ 90 โดยผู้ที่สามารถออกหนังสือรับรองให้ได้ มี 3 กลุ่มคือ:
- แพทย์แผนปัจจุบัน (ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม)
- แพทย์แผนไทย (ผู้มีใบประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์)
- ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่ได้รับการอบรมและขึ้นทะเบียนกับสภาการแพทย์แผนไทย
- เข้ารับการรักษา: นำหนังสือรับรองไปยื่นที่สถานพยาบาลของทางราชการที่มีบริการด้านการแพทย์แผนไทย
- สำรองจ่ายและยื่นเบิก: ผู้ป่วยต้อง สำรองจ่ายค่ารักษาไปก่อน จากนั้นนำใบเสร็จรับเงิน พร้อมแนบหนังสือรับรองจากแพทย์ ไปยื่นเบิกที่ส่วนราชการต้นสังกัด
ข้อควรรู้: การเบิกค่ารักษาพยาบาลด้วยแพทย์แผนไทย ไม่สามารถใช้ระบบเบิกจ่ายตรงได้ ต้องสำรองจ่ายแล้วนำเอกสารไปเบิกคืนเท่านั้นค่ะ
ระยะเวลาในการใช้สิทธิ
สามารถใช้สิทธิได้ตามความจำเป็นในการรักษาและตามคำวินิจฉัยของแพทย์ผู้ออกหนังสือรับรอง โดยสามารถนำใบเสร็จมายื่นเบิกได้ภายใน 1 ปีนับจากวันที่ออกใบเสร็จค่ะ
ศาสตร์การแพทย์แผนไทยเป็นอีกหนึ่งมรดกทางปัญญาที่ทรงคุณค่าและเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่น่าสนใจ การที่สิทธิข้าราชการเปิดกว้างให้เบิกจ่ายได้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ช่วยให้เราเข้าถึงการรักษาที่หลากหลายและเหมาะสมกับตัวเองได้มากขึ้น หากสนใจ ลองปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความจำเป็นและขอหนังสือรับรองเพื่อใช้สิทธิกันได้เลยนะคะ
อ้างอิง