การเจ็บป่วยมักมาพร้อมกับค่ารักษาพยาบาลที่หลายคนกังวล แต่รู้หรือไม่ว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“สิทธิหลัก” หมายถึง สิทธิการรักษาพยาบาลที่บุคคลได้รับตามสถานะของตน ซึ่งในประเทศไทยแบ่งออกเป็น สิทธิข้าราชการ, สิทธิประกันสังคม และ สิทธิบัตรทอง โดยสิทธิหลักเหล่านี้ช่วยให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองด้านสุขภาพภายใต้เงื่อนไขของแต่ละระบบ ซึ่งมีขอบเขตการรักษาและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป
สิทธิหลักการรักษาพยาบาลในประเทศไทย มีกี่ประเภท?
ปัจจุบันประเทศไทยมี 3 ระบบหลักของสิทธิการรักษาพยาบาล ที่คอยดูแลประชาชนทั่วประเทศ ได้แก่
1. สิทธิประกันสังคม – สำหรับลูกจ้างในภาคเอกชน บริษัท โรงงาน และหน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่ข้าราชการ โดยลูกจ้างจ่ายเงินสมทบร่วมกับนายจ้าง (เรียกคนที่มีสิทธิ์กลุ่มนี้ว่า ผู้ประกันตน)
ตรวจสอบ สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพสำหรับสิทธิประกันสังคม มาตรา 33, 39
2. สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (สิทธิบัตรทอง หรือ สิทธิ 30 บาท หรือ สิทธิ UC) – สำหรับคนไทยที่ไม่มีสิทธิข้าราชการและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม
ตรวจสอบ สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพสำหรับสิทธิบัตรทอง
3. สิทธิข้าราชการ – สำหรับข้าราชการ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และครอบครัว ได้แก่ คู่สมรส บุตรที่อายุไม่เกิน 20 ปี (คนที่ 1-3) และพ่อแม่ของข้าราชการ
นอกจากสิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม และสิทธิข้าราชการแล้ว ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีสิทธิที่คุ้มครองการรักษาที่แยกย่อยไปอีกมาก เช่น สิทธิข้าราชการโดยองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.), สิทธิข้าราชการของกทม., สิทธิรัฐวิสาหกิจ, สิทธิครูเอกชน ฯลฯ
หมายเหตุ :
- หากคุณเคยอยู่ในระบบ ประกันสังคมตามมาตรา 33, 39 แต่ ไม่ได้ส่งเงินสมทบต่อ อาจมาจากการลาออกจากงาน หยุดทำงานไป หรือต้องการออกจากระบบประกันสังคม สิทธิการรักษาพยาบาลของประกันสังคมจะยังคงคุ้มครองต่อเนื่องอีก 6 เดือน หลังจากนั้น คุณจะถูกโอนเข้าสู่ระบบ สิทธิบัตรทองโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถเลือกเปลี่ยนรพ.ตามสิทธิได้เองในภายหลัง
- สิทธิสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับสิทธิประโยชน์เฉพาะค่าทดแทนต่างๆ เช่น ค่าทำศพ ค่าชราภาพ และค่าช่วยดูบุตร แต่สิทธิการรักษาพยาบาลนั้น ผู้ประกันตนมาตรา 40 จะใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (สิทธิบัตรทอง)
หากคุณไม่แน่ใจว่ามีสิทธิการรักษาใด สามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาของคุณ ได้ที่เว็บสปสช. Link
เกร็ดความรู้
- ผู้ประกันตน มาตรา 33 → ลูกจ้างในระบบประกันสังคม (พนักงานเอกชน, โรงงาน, หน่วยงานรัฐที่ไม่ใช่ข้าราชการ)
- ผู้ประกันตน มาตรา 39 → อดีตลูกจ้างที่ลาออกจากงาน แต่ยังต้องการคงสิทธิประกันสังคมไว้ โดยจ่ายเงินสมทบเอง
- ผู้ประกันตน มาตรา 40 → ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ฟรีแลนซ์, ค้าขาย, เกษตรกร ที่สมัครเข้าระบบประกันสังคมเอง
นอกจากสิทธิหลักข้างต้นแล้ว คนไทยยังมีสิทธิรักษาพยาบาลอะไรอีก?
นอกจากสิทธิหลักที่ใช้ในการรักษาพยาบาลแล้ว คนไทยยังได้รับสิทธิด้านการส่งเสริมสุขภาพและการรักษาฉุกเฉินที่ครอบคลุมทุกคน เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที ซึ่งรวมถึง
- สิทธิ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ประกันภัยภาคบังคับ) – คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยในกรณีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ไม่ว่าผู้บาดเจ็บจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก
อ่านเพิ่มเติม สิทธิพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
- สิทธิ UCEP (เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่) – ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาฉุกเฉินในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันทีโดยไม่ต้องสำรองจ่ายในช่วง 72 ชั่วโมงแรก
อ่านเพิ่มเติม สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต
- สิทธิตรวจสุขภาพและคัดกรองโรค – บริการที่รัฐจัดให้เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรค เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคติดต่อสำคัญ
อ่านเพิ่มเติม สิทธิตรวจสุขภาพและคัดกรองโรค
- สิทธิการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินตาม พ.ร.บ.โรคติดต่ออันตราย – บริการที่รัฐจัดให้กรณีที่เกิดโรคติดต่ออันตราย เช่น การรักษาโรคโควิด 19
- สิทธิการรักษาผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติ – บริการที่รัฐช่วยดูแลทั้งค่ารักษา ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันและควบคุมโรค ในกรณีที่เกิดเหตุภัยพิบัติขึ้น
คุณสามารถตรวจสอบสิทธิต่างๆ เพิ่มเติม สำหรับคนไทยทุกคน ได้ที่นี่
Link สิทธิพิเศษเหล่านี้ช่วยให้คนไทยได้รับการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม ไม่เพียงแต่เมื่อเจ็บป่วย แต่ยังรวมถึงการป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคในระยะยาวอีกด้วย