เคยคิดไหมคะ ว่านอกเหนือจากสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม หรือข้าราชการแล้ว เรายังมี “เกราะป้องกัน” ด้านสุขภาพอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง? คำตอบคือ “มี” และเป็นสิทธิที่ทรงพลังมากทั้งในยามคับขัน ที่เปรียบเสมือน ‘ถุงลมนิรภัย’ ที่จะทำงานทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือสิทธิการดูแลสุขภาพพื้นฐาน ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือมีสิทธิหลักอะไรอยู่ก็ตาม ก็สามารถใช้สิทธิเหล่านี้ได้
The Medicative จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 4 สิทธิสุขภาพพื้นฐาน ที่คนไทยทุกคนมีสิทธิใช้ได้ เพื่อให้คุณรู้ว่าเราคนไทย มีเกราะป้องกันด้านสุขภาพอะไรกันบ้าง
ไปยังหัวข้อที่คุณสนใจ
สิทธิคนไทยทุกคนคืออะไร?
คือ สิทธิที่เพียงคุณมีสัญชาติไทย มีเลขประตัวประชาชน 13 หลัก และเข้าเงื่อนไขของแต่ละสิทธิ คุณก็สามารถใช้สิทธิสุขภาพพื้นฐานเหล่านี้ได้ทันที ไม่ว่าคุณจะใช้สิทธิรักษาสุขภาพแบบใด (บัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ) โดยใช้สิทธิเหล่านี้ได้ร่วมกับสิทธิหลักที่มี
เพราะสิทธิเหล่านี้ ถูกกำหนดไว้ในระบบสาธารณสุขของไทย เพื่อให้มั่นใจว่า คนไทยทุกคน จะมีหลักประกันสุขภาพพื้นฐานในการดูแลตัวเองถ้วนหน้า
สิทธิคนไทยทุกคนครอบคลุมอะไรบ้าง?
สิทธิรักษาฉุกเฉินวิกฤติ (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP)
หากคุณเจ็บป่วยฉุกเฉินเข้าขั้น “วิกฤติ” เช่น หมดสติ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก คุณสามารถเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน โดยไม่ต้องสำรองจ่ายใน 72 ชั่วโมงแรก
- สิทธิค่ารักษาจากอุบัติเหตุรถยนต์ (ตาม พ.ร.บ. รถ)
หากคุณได้รับบาดเจ็บจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคนเดินถนนที่ถูกรถชน จะได้รับค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นไม่เกิน 30,000 บาท โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ถูกผิด และมีสิทธิขอค่าสินไหมเพิ่มเติมตามเงื่อนไข - สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค (จากนโยบาย P&P)
เป็นชุดบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับ 7 กลุ่มเสี่ยง การตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้หญิง ยาคุมกำเนิน ถุงยางอนามัย ยาเสริมโฟลิกในหญิงตั้งครรภ์
บริการเหล่านี้สามารถเข้ารับได้ฟรีโดยแบ่งรายละเอียดตามกลุ่มอายุ และมีสิทธิสำหรับหญิงตั้งครรภ์แยกต่างหากโดยเฉพาะ โดยสามารถรับบริการที่หน่วยบริการในระบบ สปสช. ไม่ว่าคุณจะมีสิทธิหลักอะไร - สิทธิรักษาโรคติดต่ออันตราย
สำหรับกรณีโรคติดต่อที่กำหนดโดยกระทรวงสาธารณสุข เช่น ตอนที่ COVID-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายและเป็นโรคระบาดที่สามารถรักษาได้ฟรีสำหรับทุกสิทธิ*
*หมายเหตุ: ปัจจุบัน COVID-19 ถูกจัดให้เป็นโรคประจำถิ่น และไม่ใช่โรคติดต่ออันตรายตั้งแต่
1 ต.ค. 2565 แต่คนไทยยังสามารถรับการรักษาได้ฟรีตามสิทธิหลักของแต่ละคน - สิทธิรักษาในพื้นที่ภัยพิบัติ
หากพื้นที่ที่คุณอยู่ถูกประกาศให้เป็น “เขตภัยพิบัติสาธารณะ” เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ สารเคมีรั่วไหล คุณสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนที่ร่วมโครงการได้ โดยไม่ต้องยึดตามสิทธิหลักเดิม
คำถามที่พบบ่อย
Q: มีประกันสังคมอยู่ จะใช้ UCEP ได้ไหม?
A: ได้ค่ะ ทุกคนมีสิทธิเข้ารับการรักษาฉุกเฉินวิกฤติแบบไม่ต้องสำรองจ่าย ไม่จำกัดสิทธิหลัก
Q: วัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ใช้ได้ทุกคนไหม?
A: ใช้ได้สำหรับกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ได้แก่
- เด็กเล็ก (อายุ 6 เดือน – 2 ปี)
- ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
- ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วน มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
- หญิงตั้งครรภ์ แนะนำให้ฉีดเมื่ออายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
สรุป
สิทธิคนไทยทุกคน ไม่ใช่สิทธิที่แยกต่างหากจากสิทธิหลัก แต่เป็น “สิทธิซ้อน” ที่คุณสามารถใช้ควบคู่กับสิทธิหลักได้ทันทีในบางสถานการณ์ เช่น ฉุกเฉิน อุบัติเหตุ หรือการดูแลป้องกันโรค
สิ่งสำคัญคือการ “รู้สิทธิ” และ “กล้าใช้” เพื่อให้คุณได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีเมื่อจำเป็น