สื่อสารเรื่องราวสุขภาพในแบบที่สร้างสรรค์
ทีมงาน The Medicative | ติดต่อเรา
สื่อสารเรื่องราวสุขภาพในแบบที่สร้างสรรค์

คำแนะนำ: เริ่มค้นหาด้วยคำง่าย ๆ เช่น 

สิทธิบัตรทอง

ทำความรู้จักสิทธิบัตรทอง (สิทธิ 30 บาท) สิทธิสุขภาพที่ติดตัวคนไทยมาตั้งแต่เกิด

Share
สิทธิบัตรทอง (สิทธิ 30 บาท)

เคยไหมคะ? เวลาไม่สบายแล้วใจหายแวบ กังวลว่าถ้าไม่มีประกันสังคมหรือไม่ได้เป็นข้าราชการ แล้วใครจะช่วยจ่ายค่ารักษาให้… ความกังวลนี้จะหมดไปถ้าคุณได้รู้จักกับ “สิทธิบัตรทอง” The Medicative จะมาเล่าให้ฟังแบบจับมือทำ ให้คุณเข้าใจสิทธิพื้นฐานที่ทรงพลังนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ไปยังหัวข้อที่คุณสนใจ

สิทธิบัตรทอง หรือสิทธิ 30 บาท คืออะไร? 

สิทธิบัตรทอง คือ สิทธิการรักษาที่คนไทยทุกคนต้องได้รับตั้งแต่เกิด (เพียงคุณมีบัตรประชน 13 หลัก) โดยทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ออกให้คนไทยทุกคนได้มีสิทธิรักษาฟรี เว้นแต่ว่าคุณจะมีสิทธิอื่น ๆ อยู่แล้ว เช่น สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการ เป็นต้น

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคุ้นหูกันหลายชื่อทั้ง สิทธิบัตรทอง , สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือชื่อเต็มก็คือ สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งทั้ง 3 ชื่อนี้คือสิทธิเดียวกันทั้งหมด

ปัจจุบันมีคนไทยกว่า 47 ล้านคน อยู่ในระบบสิทธิบัตรทอง ใช้บริการปีละกว่า 170 ล้านครั้งสำหรับผู้ป่วยนอก และ 6 ล้านครั้งสำหรับผู้ป่วยใน ถือเป็นสิทธิที่มีคนใช้มากที่สุดในประเทศ

แต่รู้หรือไม่ว่าจากผลสำรวจ Thailand Healthcare 2025 โดย สปสช. พบว่า แม้คนไทยจะรู้จักสิทธิบัตรทองมากถึง 93.3% แต่กลับพบว่า รายละเอียดสิทธิที่สำคัญหลายอย่างยังมีคนน้อยกว่า 50% ที่รู้จัก เช่น

  • มีเพียง 46.5% รู้ว่าผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงมีสิทธิรับการดูแลที่บ้าน
  • มีเพียง 44.5% รู้ว่าฉุกเฉินเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล
  • มีเพียง 44% รู้ว่าสิทธิผู้ป่วยมะเร็งรักษาที่ไหนก็ได้ในระบบ
  • มีเพียง 42% รู้ว่าสิทธิผู้สูงอายุ/ผู้พิการได้รับผ้าอ้อมหรือแผ่นรองซับ

รวมถึงคำถามเรื่องของการใช้สิทธิ การใช้ใบส่งตัว สถานที่ที่ใช้สิทธิได้นั้นยังคงมีคำถามจากประชาชนอยู่ตลอดเวลา นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทาง The Medicative อยากผลักดันเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้เข้าถึงสิทธิการรักษาที่ตัวเองควรได้รับอย่างแท้จริง

สิทธิบัตรทองครอบคลุมการรักษาอะไรบ้าง?

สิทธิบัตรทอง ครอบคลุมการรักษาพยาบาลและบริการด้านสุขภาพที่หลากหลาย โดยสามารถสรุปเป็นรายการหลักๆ ได้ดังนี้

1. การรักษาพยาบาลทั่วไป

  • เจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ เช่น เวียนศีรษะ ปวดหัว ปวดข้อ ปวดฟัน และอื่นๆ สามารถปรึกษาและรับยาที่ร้านยาคุณภาพได้ฟรี ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล
  • อาการป่วย 42 กลุ่มโรค เช่น อาการท้องร่วง เนื้อเยื่ออักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ ตากุ้งยิงและ อื่น ๆ สามารถพบแพทย์ออนไลน์ได้ฟรี และรับยาที่บ้านหรือร้านยาใกล้บ้านได้ โดยเลือกการหาหมอออนไลน์ได้ผ่าน แอปฯ หมอดีแอปฯ Clicknic , แอปฯ Saluber MD ThailandTotale Telemed และ  ตู้ห่วงใย 

**อ่านเรื่อง “สิทธิบัตรทอง” เพิ่มเติมว่าครอบคลุมอะไรบ้าง คลิก

2. การรักษาโรคเรื้อรัง ค่าใช้จ่ายสูง

การรักษาโรคเรื้อรังของสิทธิบัตรทองครอบคลุม หลายกลุ่มโรค ไม่ว่าจะเป็น มะเร็ง ผ่าตัดสมอง โรคปอดระยะสุดท้าย โรคหลอดเลือดสมอง แตก/ตีบ/ตัน เป็นต้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่

  • การตรวจวินิจฉัย
  • เวชภัณฑ์ 
  • ยา
  • อวัยวะเทียม
  • อุปกรณ์ทางการแพทย์

รายการโรคค่าใช้จ่ายสูงที่ครอบคลุม

2.1 โรคเรื้อรังที่พบบ่อย และรายละเอียดการรักษา และโครงการของ สปสช

  • โรคมะเร็ง ภายใต้นโยบาย “Cancer Anywhere” หรือ “มะเร็งรักษาได้ทุกที่” สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการวินิจฉัยแล้ว ไม่ต้องมีใบส่งตัว ครอบคลุม 7 รายการ ได้แก่
    • ค่ายาเคมีบำบัด/ฮอร์โมน
    • ค่ารังสีรักษา
    • ค่าตรวจห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ที่เกี่ยวกับการใช้ยา จ(2)
    • การรักษาโรคแทรกซ้อนจากการรักษามะเร็ง
    • การตรวจยืนยันการวินิจฉัย/การประเมินระยะโรค/การประเมินการรักษา
    • โรคร่วมอื่นๆ ในช่วงที่รักษามะเร็ง
    • การติดตามหลังการรักษามะเร็ง
  • โรคไตเรื้อรัง ดูแลครอบคลุมตั้งแต่ “ระยะแรก” จนถึง “ระยะสุดท้าย”
    • โรคไตเรื้อรังระยะ 1-4: ครอบคลุมการรักษาทั่วไป เช่น ตรวจคัดกรองการทำงานของไต และค่ายา และค่ารักษาที่จำเป็นตามอาการ
    • โรคไตเรื้อรังระยะที่ 5: สามารถเลือกการรักษาได้ทั้งหมด 3 แนวทาง ได้แก่
      • การฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม
      • การล้างไตทางช่องท้อง
      • การปลูกถ่ายไต
  • โรคหลอดเลือดสมองตีบ สามารถรับการคุ้มครอง ตรวจวินิจฉัย รักษา ยา เวชภัณฑ์  อุปกรณ์ทางการแพทย์ บริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพ และยังมีโครงการ Stroke fast track ซึ่งเป็นระบบช่องทางเร่งด่วน เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา ลดภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต
    • การฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke หลังออกจากโรงพยาบาล หากผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นจนได้รับการประเมินว่าเป็นผู้ป่วยระยะกลาง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถรับบริการบำบัดฟื้นฟูได้ถึงบ้าน หรือคลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเฉียบพลัน ผู้ป่วยที่มีสัญญาณเตือนอันตรา เช่น จุกแน่นหน้าอก ปวดร้าวไปกราม สะบักหลัง แขนซ้าย แน่นจุดเสียดใต้ลิ้นปี่ เหนื่อย ใจสั่น เหงื่อออก หายใจไม่ทัน เป็นต้น จะได้รับการรักษาในสิทธิภาวะฉุกเฉินทันที อาการ 

3. บริการพิเศษและนโยบายใหม่

4. บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

  • การฉีดวัคซีน: เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (สำหรับกลุ่มเสี่ยง)
  • การตรวจคัดกรองโรค: เช่น การตรวจคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่

สามารถเช็คสิทธิ ฉัดวัคซีน และตรวจคัดกรองโรคต่าง ๆ ได้ที่ แอปฯเป๋าตังสุขภาพ

  • การดูแลสตรีตั้งครรภ์: ครอบคลุมการฝากครรภ์ การคลอดบุตร และการดูแลหลังคลอด
  • กายภาพบำบัด 4 กลุ่มโรค: เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย (รับบริการได้ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกที่เข้าร่วมโครงการ)

สิทธิบัตรทองไม่ครอบคลุมอะไรบ้าง?

แม้จะเป็นสิทธิที่ดูแลครอบคลุมหลายด้าน แต่ก็มีข้อจำกัดที่ไม่ครอบคลุม ดังนี้

  • บริการเพื่อความสวยงาม เช่น ศัลยกรรมตกแต่ง เสริมความงาม เว้นแต่แพทย์วินิจฉัยว่าจำเป็นตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
  • บริการที่เกินข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น การตรวจหรือรักษาที่ซ้ำซ้อนเกินความจำเป็น, การขอเจาะเลือดหลายครั้งโดยไม่มีเหตุผลทางคลินิก
  • การรักษาที่ยังอยู่ระหว่างการทดลอง / ค้นคว้า เช่น การรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจาก สปสช. หรือคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
  • การปลูกถ่ายอวัยวะบางชนิด หากยังไม่อยู่ในบัญชีสิทธิประโยชน์ที่ประกาศใช้ ไม่สามารถเบิกได้
  • บริการนอกหน่วยบริการประจำ (เว้นแต่กรณีฉุกเฉินหรือมีใบส่งตัว) เช่น ไปโรงพยาบาลอื่นโดยไม่มีใบส่งตัวและไม่ใช่เคสฉุกเฉิน จะไม่สามารถใช้สิทธิได้ตามปกติ
  • บริการในสถานพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้เข้าร่วมระบบ สปสช. เช่น คลินิกเอกชนทั่วไปที่ไม่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. จะไม่สามารถรับสิทธิได้แม้จะยื่นบัตรประชาชน

สิทธิบัตรทองใช้ได้ที่ไหนบ้าง

สิทธิบัตรทองสามารถใช้ได้ในหลายหน่วยบริการสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ คลินิกอบอุ่น ไปจนถึงโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ หน่วยบริการแต่ละระดับมีบทบาทต่างกันไป ดังนี้ค่ะ

**ค้นหาโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ คลิก
**ค้นหาหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ คลิก
**ค้นหาจุดบริการตู้ห่วงใย คลิก

1. โรงพยาบาลของรัฐทุกระดับ

  • โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 
  • โรงพยาบาลจังหวัด
  • โรงพยาบาลศูนย์ / โรงพยาบาลทั่วไป 

2. คลินิกอบอุ่นและหน่วยบริการปฐมภูมิ (PCU / รพ.สต.)

  • ตรวจโรคทั่วไป เช่น ไข้หวัด ความดัน เบาหวาน
  • บริการวัคซีน ฝากครรภ์ วางแผนครอบครัว
  • ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง

3. โรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการกับ สปสช.

  • มีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 
  • ส่วนใหญ่ให้บริการผู้ป่วยนอก และบางแห่งครอบคลุมบริการผู้ป่วยใน
  • ตัวอย่าง เช่น รพ.บางนา 1, รพ.ไอเอ็มเอช สีลม, รพ.เพชรเวช (กทม.)

4. ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ

  • ผู้ป่วยเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น ไข้หวัด ท้องเสีย ผื่นคัน → สามารถรับการปรึกษาและรับยาที่ร้านยาได้เลย โดยใช้เพียงบัตรประชาชน
  • ลดความแออัดในโรงพยาบาล เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการรอคิวนาน

5. โครงการ Telemedicine (การแพทย์ทางไกล)

  • ใช้สิทธิบัตรทองปรึกษาแพทย์ผ่านออนไลน์ได้
  • เหมาะกับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่แค่รับยา หรือต้องติดตามอาการ

6. ตู้ห่วงใย (บางพื้นที่)

  • ผู้ป่วยสามารถรับยาตามใบสั่งแพทย์ผ่านตู้รับยาอัตโนมัติ
  • ลดการรอคิวและความแออัดในโรงพยาบาล

วิธีเช็คสิทธิบัตรทองออนไลน์ด้วยตัวเองทั้ง 5 ช่องทาง ใช้อย่างไรบ้าง

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า