สื่อสารเรื่องราวสุขภาพในแบบที่สร้างสรรค์
ทีมงาน The Medicative | ติดต่อเรา
สื่อสารเรื่องราวสุขภาพในแบบที่สร้างสรรค์

คำแนะนำ: เริ่มค้นหาด้วยคำง่าย ๆ เช่น 

สิทธิบัตรทอง

ไขมันในเลือดสูง ภัยเงียบที่สัมพันธ์กับโรคเบาหวานมากกว่าที่คิด

Share
ไขมันในเลือดสูง ภัยเงียบที่สัมพันธ์กับโรคเบาหวานมากกว่าที่คิด

Table of Contents

หลายคนอาจคิดว่า “ไขมันในเลือดสูง” เป็นเพียงปัญหาที่เกิดจากการรับประทานอาหารมันหรือทอดมากเกินไป แต่ในความเป็นจริง ไขมันในเลือดสูงมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับโรคเบาหวาน และอาจเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้ป่วยเบาหวานค่ะ

ไขมันในเลือดสูงคืออะไร?

ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia) คือ ภาวะที่ร่างกายมี ระดับไขมันในเลือดผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ หรือไขมันชนิดดี–ชนิดเลว โดยทั่วไปจะพบในลักษณะดังนี้

  • คอเลสเตอรอลรวม (Total cholesterol) สูงเกินเกณฑ์

  • ไขมันเลว (LDL cholesterol) สูง ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดการสะสมในผนังหลอดเลือด

  • ไขมันดี (HDL cholesterol) ต่ำ ทำให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินได้ไม่ดี

  • ไตรกลีเซอไรด์สูง ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะอ้วนและดื้อต่ออินซูลิน

สิ่งที่น่ากังวลคือ ไขมันในเลือดสูงมักไม่แสดงอาการชัดเจน ผู้ป่วยจำนวนมากจึงไม่รู้ตัว จนกระทั่งตรวจสุขภาพหรือเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง หรือเส้นเลือดตีบตัน

สาเหตุสำคัญของไขมันในเลือดสูง 

  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง

  • การไม่ออกกำลังกายและน้ำหนักเกิน

  • โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง

  • กรรมพันธุ์หรือพันธุ์กรรมที่ทำให้ไขมันผิดปกติแต่กำเนิด

ดังนั้น ไขมันในเลือดสูงจึงถูกเรียกว่า “ภัยเงียบ” เพราะไม่ก่อให้เกิดอาการทันที แต่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงในระยะยาว

อาการไขมันในเลือดสูง เสี่ยงอันตราย

อาการไขมันในเลือดสูง เสี่ยงอันตราย

แม้ว่าไขมันในเลือดสูงมักไม่แสดงอาการชัดเจน แต่ผู้ป่วยที่มีเบาหวานและไขมันสูงร่วมกัน ควรระวังสัญญาณเตือนเหล่านี้:

  • เจ็บแน่นหน้าอก หายใจลำบากเวลาออกแรง

  • อ่อนแรงหรือชาแขนขาข้างใดข้างหนึ่ง

  • เวียนศีรษะบ่อย พูดไม่ชัด

  • เหนื่อยง่ายกว่าปกติ

หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมอง

โรคเบาหวานกับความผิดปกติของไขมัน

โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) เกิดจากการที่ร่างกายมีความผิดปกติในการใช้อินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง แต่ภาวะนี้ยังมีผลต่อระบบการเผาผลาญไขมันด้วย ผู้ป่วยเบาหวานจึงมักมีไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย โดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์และ LDL ที่สูงกว่าปกติ และ HDL ที่ต่ำกว่าคนทั่วไป

สิ่งนี้เรียกว่า Diabetic Dyslipidemia หรือไขมันผิดปกติในผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ไขมันในเลือดสูงกับโรคเบาหวาน เกี่ยวข้องกันอย่างไร?

จากข้อมูลของโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SIPH) พบว่า ไขมันในเลือดสูงกับโรคเบาหวานมีความเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้น ดังนี้:

  • อินซูลินดื้อต่อการทำงาน : ภาวะดื้อต่ออินซูลินที่พบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มีผลให้ร่างกายสร้างไตรกลีเซอไรด์มากขึ้น

  • เอนไซม์ทำงานผิดปกติ : เบาหวานส่งผลให้เอนไซม์ที่ควบคุมการสลายไขมันทำงานลดลง ไขมันเลวจึงสะสมมากขึ้น

  • เส้นเลือดถูกทำลายเร็วขึ้น : น้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับไขมันสูง จะเร่งกระบวนการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้เสี่ยงโรคหัวใจเร็วกว่าคนทั่วไป

ดังนั้น หากเป็นเบาหวานแล้วไม่ควบคุมไขมันในเลือด ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างชัดเจน

วิธีตรวจและวินิจฉัยไขมันในเลือดสูง

การตรวจวัดระดับไขมันในเลือดทำได้ด้วยการเจาะเลือดหลังอดอาหาร 8–12 ชั่วโมง ซึ่งแพทย์จะประเมินค่า:

  • Total Cholesterol

  • LDL cholesterol

  • HDL cholesterol

  • Triglycerides

สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรตรวจไขมันในเลือดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษา

แนวทางการดูแลและรักษาไขมันในเลือดสูง

1. ปรับพฤติกรรมการกิน

  • ลดอาหารทอด มันสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน

  • เลือกโปรตีนไม่ติดมัน เช่น ปลา ไก่ไร้หนัง

  • เพิ่มผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสี

  • หลีกเลี่ยงน้ำตาลและอาหารแปรรูป

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน

3. ควบคุมน้ำหนัก

การลดน้ำหนักเพียง 5–10% ของน้ำหนักตัว สามารถช่วยลดระดับไขมันและควบคุมน้ำตาลได้

4. ใช้ยาเมื่อจำเป็น

แพทย์อาจสั่งยาลดไขมัน เช่น Statins ควบคู่กับยาลดน้ำตาล เพื่อป้องกันโรคหัวใจและภาวะแทรกซ้อนค่ะ

สรุปแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานต้องใส่ใจทั้งการควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือดไปพร้อมกัน เพื่อป้องกันโรคร้ายแรงในอนาคตค่ะ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไขมันในเลือดสูง

Q1 : ไขมันในเลือดสูงกับโรคเบาหวานเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
ไขมันในเลือดสูงเกิดจากการเผาผลาญผิดปกติ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน โดยเฉพาะภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้มีไตรกลีเซอไรด์สูงและ HDL ต่ำ ส่งผลให้เสี่ยงโรคหัวใจมากขึ้นค่ะ

Q2 : ถ้าเป็นเบาหวานแล้วควรตรวจไขมันบ่อยแค่ไหน?
ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นตามคำแนะนำแพทย์ เพื่อประเมินความเสี่ยงและปรับการรักษาให้เหมาะสมค่ะ

Q3 : ไขมันในเลือดสูงรักษาหายไหม?
ไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่สามารถควบคุมให้อยู่ในระดับปกติได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและใช้ยาตามแพทย์สั่งค่ะ

Q4 : การออกกำลังกายช่วยลดไขมันในเลือดได้จริงหรือไม่?
ช่วยได้ค่ะ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแอโรบิก จะช่วยเพิ่ม HDL และลดไตรกลีเซอไรด์ได้

Q5 : ไขมันในเลือดสูงมีอาการอย่างไร?
ส่วนใหญ่ไม่มีอาการชัดเจน มักตรวจพบจากการตรวจเลือด แต่หากรุนแรงอาจมีอาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หรือเกิดโรคหัวใจและอัมพาตได้ค่ะ

Q6 : เบาหวานทำให้เกิดไขมันในเลือดสูงจริงหรือไม่?
จริงค่ะ ผู้ป่วยเบาหวานมักมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายจัดการกับไขมันผิดปกติ ไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์จึงสูงขึ้น ขณะที่ไขมันดี (HDL) มักต่ำลง

Q7 : ไขมันในเลือดสูงเสี่ยงโรคอะไรบ้าง?
เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง ไขมันอุดตันเส้นเลือด และหากเป็นร่วมกับเบาหวาน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงอย่างมากค่ะ

Q8 : ผู้ป่วยเบาหวานที่ไขมันสูง ควรเลี่ยงอาหารอะไร?
ควรเลี่ยงอาหารทอด มันสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน ไขมันทรานส์ อาหารแปรรูป และน้ำตาลสูง ๆ เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม เพราะกระตุ้นให้ทั้งน้ำตาลและไขมันในเลือดพุ่งสูงขึ้นค่ะ

Q9 : การดื่มกาแฟมีผลต่อไขมันในเลือดสูงหรือไม่?
กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลหรือนมข้น ไม่มีผลต่อไขมันในเลือดโดยตรง แต่หากใส่น้ำตาล ครีมเทียม หรือนมข้นหวาน จะเพิ่มทั้งน้ำตาลและไขมันในเลือดค่ะ

Q10 : ควบคุมไขมันในเลือดสูงโดยไม่ใช้ยาได้หรือไม่?
ในระยะเริ่มต้นสามารถทำได้ด้วยการปรับอาหาร ออกกำลังกาย และลดน้ำหนัก แต่หากไขมันยังสูงหรือมีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจ แพทย์อาจจำเป็นต้องให้ยาลดไขมันร่วมด้วยค่ะ

Q11 : ยาลดไขมันมีผลข้างเคียงอะไร?
บางชนิดอาจทำให้ปวดกล้ามเนื้อ ตับทำงานผิดปกติ หรือมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร แพทย์จึงต้องติดตามผลเลือดและประเมินความเหมาะสมของการใช้ยาเป็นระยะค่ะ

สรุป

ไขมันในเลือดสูงไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องอาหาร แต่มันสัมพันธ์กับโรคเบาหวานอย่างใกล้ชิด หากควบคุมไม่ดีจะเร่งให้เกิดโรคหัวใจและภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ดังนั้น การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกาย และใช้ยาตามแพทย์สั่ง จึงเป็นทางออกสำคัญในการดูแลทั้งเบาหวานและไขมันในเลือดสูงควบคู่กันไปค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Latest Posts

No data was found

Subscribe and Follow

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า