สื่อสารเรื่องราวสุขภาพในแบบที่สร้างสรรค์
ทีมงาน The Medicative | ติดต่อเรา
สื่อสารเรื่องราวสุขภาพในแบบที่สร้างสรรค์

คำแนะนำ: เริ่มค้นหาด้วยคำง่าย ๆ เช่น 

สิทธิบัตรทอง

ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ: อาการ สาเหตุ การรักษา

Share
ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ

ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ หรือ ventricular tachycardia (VT) เป็นหนึ่งในภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หรือ sudden cardiac arrest (SCA) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตกะทันหันในหลายกรณี

บทความนี้ The Medicative จะพาคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะ VT อย่างละเอียด ตั้งแต่กระบวนการทำงานของหัวใจ สาเหตุของโรค อาการที่ควรสังเกต วิธีการวินิจฉัย แนวทางการรักษา และการป้องกัน เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพหัวใจของตัวเองและคนที่คุณรักได้ดียิ่งขึ้น

ไปยังหัวข้อที่คุณสนใจ

หัวใจทำงานอย่างไร?

ระบบไฟฟ้าของหัวใจ

หัวใจเป็นอวัยวะที่ทำงานตลอดเวลา โดยสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ระบบไฟฟ้าของหัวใจ เป็นกลไกที่ช่วยให้หัวใจเต้นอย่างเป็นจังหวะและสม่ำเสมอ

  1. เริ่มต้นที่กลุ่มเซลล์กำเนิดไฟฟ้า (sinus node)
    • อยู่ที่หัวใจห้องบนขวา (right atrium)
    • เป็นตัวสร้างสัญญาณไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นให้หัวใจเต้น
    • สัญญาณไฟฟ้านี้จะส่งไปยัง โหนด AV (atrioventricular node) ซึ่งอยู่ระหว่างหัวใจห้องบนและล่าง
  2. ส่งต่อสัญญาณไปยังหัวใจห้องล่าง (ventricles)
    • เมื่อสัญญาณเดินทางผ่านโหนด AV จะกระจายไปตามเครือข่ายเส้นใยไฟฟ้าในหัวใจห้องล่าง
    • ทำให้ ventricles บีบตัว เพื่อสูบฉีดเลือดออกไปเลี้ยงร่างกาย
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเกิดขึ้นอย่างไร?

เมื่อเกิด ventricular tachycardia (VT) สัญญาณไฟฟ้าจะถูกกระตุ้นผิดจุดในหัวใจห้องล่าง ทำให้เกิดการเต้นเร็วผิดปกติ โดย หัวใจอาจเต้นมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที และอาจเกิดต่อเนื่องนานกว่า 30 วินาที ซึ่งส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงได้ และเสียชีวิตได้

ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะคืออะไร?

Ventricular tachycardia (VT) เป็นภาวะที่หัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ โดยมีการส่งสัญญาณไฟฟ้าที่ผิดปกติจาก ventricles แทนที่จะเป็น sinus node ทำให้หัวใจเต้นเร็วเกินไป ส่งผลให้การสูบฉีดเลือดไม่มีประสิทธิภาพ และอาจนำไปสู่ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และเสียชีวิตได้

ประเภทของ VT

  • Sustained VT: เกิดขึ้นต่อเนื่องนานกว่า 30 วินาที และอาจทำให้ผู้ป่วยหมดสติ หรือเป็นลมได้

  • Non-sustained VT: เกิดขึ้นเป็นช่วงสั้น ๆ (ไม่เกิน 30 วินาที) อาจไม่แสดงอาการชัดเจน แต่มีความเสี่ยงพัฒนาเป็น sustained VT

สาเหตุของภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ

สาเหตุของหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ ได้แก่

1. โรคหัวใจที่เป็นสาเหตุ

  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (coronary artery disease – CAD): หลอดเลือดหัวใจตีบตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ

  • กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocardial infarction): หากเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (heart attack) อาจทำให้เกิด VT ได้

  • ภาวะหัวใจล้มเหลว (heart failure): หัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลต่อระบบไฟฟ้าของหัวใจ

2. ความผิดปกติทางพันธุกรรม

  • Brugada syndrome: ทำให้เกิด VT และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

  • Long QT syndrome: ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง

3. ปัจจัยภายนอก

  • ความเครียดเรื้อรัง ส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติของหัวใจ

  • การใช้สารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน แอลกอฮอล์ ยาเสพติด

  • ภาวะขาดเกลือแร่ เช่น โพแทสเซียมหรือแมกนีเซียมต่ำเกินไป

อาการของภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ

  • ใจสั่น รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  • เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม
  • หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย
  • เจ็บแน่นหน้าอก
  • หมดสติ หากอาการรุนแรง

การวินิจฉัย

แพทย์จะใช้วิธีการตรวจต่าง ๆ เพื่อวินิจฉัย VT เช่น

  • คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG): ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ
  • Echocardiogram: : คือการทำอัลตราซาวนด์หัวใจเพื่อตรวจดูโครงสร้างของหัวใจ
  • Holter monitor: เป็นอุปกรณ์ที่บันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อตรวจจับจังหวะหัวใจตลอด 24-48 ชั่วโมง

การรักษาภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ

  1. การใช้ยา:
    • Beta-blockers เพื่อคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ
    • Antiarrhythmic drugs เป็นยาต้านหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  2. การใช้ไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจ:
    • Cardioversion: ใช้ไฟฟ้าช่วยปรับจังหวะหัวใจ
    • ICD (implantable cardioverter defibrillator): เป็นเครื่องกระตุ้นหัวใจที่ฝังในร่างกาย
  3. การรักษาด้วยการจี้หัวใจ:
    • Radiofrequency ablation ใช้คลื่นวิทยุทำลายจุดกำเนิดของสัญญาณผิดปกติ

การป้องกันภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ

  • ควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  • หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน แอลกอฮอล์ บุหรี่
  • ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
  • รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ เช่น ผัก ผลไม้ ไขมันดี
  • จัดการความเครียด ด้วยเทคนิค สมาธิ โยคะ หรือฝึกหายใจลึก ๆ

คำถามที่ถูกถามบ่อยเกี่ยวกับภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ (ventricular tachycardia)

1. ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะคืออะไร?

      • เป็นภาวะที่หัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอ และหากรุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นได้

2. สาเหตุของภาวะนี้คืออะไร?

      • อาจเกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความผิดปกติของระบบไฟฟ้าหัวใจ หรือการใช้สารเสพติดและยาบางชนิด

3. อาการที่ควรระวังมีอะไรบ้าง?

      • ใจสั่น รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หายใจลำบาก เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือหมดสติ

4. ภาวะนี้อันตรายแค่ไหน?

      • หากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือทำให้หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

5. มีวิธีการรักษาอย่างไร?

      • การใช้ยาเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ การช็อกไฟฟ้าหัวใจ (cardioversion) การฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ (ICD) และการจี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (radiofrequency ablation)

สรุป

ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ (ventricular tachycardia) เป็นภาวะที่อาจนำไปสู่หัวใจล้มเหลวหรือหยุดเต้นเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที การรู้จักสาเหตุ อาการ และแนวทางการรักษาจะช่วยให้สามารถดูแลตัวเองและคนที่คุณรักได้อย่างถูกต้อง

การดูแลหัวใจเป็นสิ่งสำคัญ ควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต รับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของภาวะนี้

หากมีอาการใจสั่น หน้ามืด หรือหมดสติ ควรพบแพทย์ทันที เพราะการรักษาตั้งแต่ระยะแรกสามารถลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

สำหรับผู้ที่มองหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและแนวทางการรักษาโรคต่าง ๆ สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ The Medicative แหล่งรวมความรู้ด้านสุขภาพที่ครอบคลุม พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิ์การรักษา เพื่อให้คุณเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้อย่างมั่นใจ

อ้างอิง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Latest Posts

การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (echocardiogram) เป็นวิธีที่ปลอดภัยและแม่นยำในการประเมินโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจรั่ว หรือภาวะหัวใจโต โดยไม่ต้องใช้รังสีหรือผ่าตัด หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่เหมาะสม
โรคลิ้นหัวใจส่งผลต่อหัวใจและคุณภาพชีวิต หากปล่อยไว้ อาจทำให้หัวใจล้มเหลว อาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น หรือแน่นหน้าอกจะมากขึ้นเมื่อโรครุนแรงขึ้น การรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ยา ซ่อมหรือเปลี่ยนลิ้น การดูแลสุขภาพและตรวจหัวใจเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

Subscribe and Follow

หมวดหมู่ สุขภาพหัวใจ

ประเภทและอาการ
การวินิจฉัยและการรักษา
เรียนรู้การอยู่กับโรคหัวใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า